เสียงดังป๊อก เลิกเลย รายการมวยสันติสุข
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
เรื่องจริง ไม่อิงนิยาย ! กังฟู vs มวยไทย ตายบนเวทีมาแล้ว จีนต้องห้ามแข่งขัน (ท้าวกาดำ บรรยาย)
มวยไทย ศิลปะการต่อสู้ของไทย และศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก เรื่องล้อเลียน ขำๆ โดยไม่มีพิษภัยใดๆ
เรื่องราวแปลกๆ เรื่องราวบันเทิง ข่าวสารที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ใบนี้ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
Disclaimer: this channel is not meant to replace actual instruction. We are an entertainment/discussion/parody channel meant to celebrate and also make light of martial arts
Bài 29 Học chữ Khmer dành cho người lớn và CBVC
gửi chân nhóm thứ 2 ច្ច ឆ្ឆ ជ្ជ ឈ្ឈ ញ្ ្ច ្ជ ្ញ
[ มวยเดือด..อัดหน้าไม่ยั้ง!! ] รุ่งชัย แลมพาร์ดมวยไทย VS เรด ไร l MUAY THAI FIGHTER 2019
[ มวยเดือด..อัดหน้าไม่ยั้ง!! ] รุ่งชัย แลมพาร์ดมวยไทย VS เรด ไร l MUAY THAI FIGHTER 2019มวย Sports Muaythai
บทพิจารณาอาการ 32 (อวัยวะ 32 ประการ) ปลงสังขาร เมื่อวิปัสสนา ไพเราะ
ชื่อ บทพิจารณาอาการ ๓๒ ( อวัยวะ 32 ประการ ไว้ปลง ปลงสังขาร เมื่อวิปัสสนา )
อัตถิ อิมัสมิง กาเย
๑. เกศา อันว่าผม อย่าได้หลงชม ว่าผมโสภา เก้าล้านแสนเส้น ล้วนเป็นอนิจจา อย่าได้โสกาว่าเป็นแก่นสาร
๒. โลมา คือขน งอกทั่วตัวตน ว่าขนทนทาน เก้าโกฏิแสนเส้น บ่มิเป็นแก่นสาร เวลาถึงกาล สาบสูญบรรลัย
๓. นะขา คือเล็บ ยาวนักมักเจ็บ ว่าเล็บทั้งหลาย เปื่อยเน่าพุพอง เป็นหนองภายใน ทนทานเอาไว้ ย่อมเป็นกังวล ๔. ทันตา คือฟัน สามสิบสองอัน ข้างล่างข้างบน งอกขึ้นภายหลัง น่าชังเหลือทน หลุดถอนคลอนหล่น ทนทุกข์เวทนา
๕. ตะโจ คือหนัง ห่อหุ้มกายัง เท่าผลพุทรา ห่อหุ้มรอบตัว ทั่วทั้งกายา เมื่อม้วยมรณ์ แร้งกาจิกกิน
๖. มังสัง คือเนื้อ อย่าได้เอื้อเฟื้อ เนื้อเก้าสิบชิ้น เน่าหนองกองเกื้อ อยู่เหนือแผ่นดิน แร้งกาจิกกิน เมื่อสิ้นอาสัญ
๗. นะหารู คือเอ็น เมื่อตัวยังเป็น เอ็นซักไหวหวั่น เอ็นใหญ่เก้าร้อย เอ็นน้อยเก้าพัน รัดรึงตรึงกัน ผูกพันกายา
๘. อัฐิ คือกระดูก เอ็นนั้นพันผูก กระดูกนานา ได้ สามร้อยถ้วน ล้วนเป็นอนิจจา อย่าได้โศกา ว่าเป็นแก่นสาร
๙. อัฏฐิมิญชัง คือเยื่อในกระดูก กระดูกนั้นยัง มีเยื่อยึดและยาน หล่อเลี้ยงสังขาร เวลาถึงกาล สาบสูญ บรรลัย
๑๐. วักกัง คือม้าม อยู่แอบแนบข้าง ริมเนื้อหัวใจ ผู้มีปัญญา จดจำเอาไว้ เร่งคิดให้ได้ ถึงพระอนิจจัง
๑๑. หะทะยัง คือหัวใจ พระท่านขานไข ว่าใจนานา ใจขึงใจโกรธ ใจโทษโทสา ใจมารแกล้วกล้า ฆ่าสัตว์ทั้งหลาย ใจมักส่อเสียด ใจลวงใจล่อ ให้เขาหลงใหล ใจมือใจมัว หลงตัวจนตาย ใจดำนั้นไซร้ เหมือนสัตว์เดรัจฉาน ใจร้ายใจพาล จะจมอยู่นาน ในจตุรบาย ใจมักทำบุญ ให้คิดถึงคุณศีลทานทั้งหลาย ให้แล้วให้เล่า ข้าวน้ำมากมาย จงเร่งขวนขวาย มุ่งหมายทำบุญ ไหว้พระสวดมนต์ กุศลผลบุญ ใจมั่นเจือจุน ด้วยใจศรัทธา ใจนั้นสุภาพ ละอายต่อบาป ใจไม่หยาบช้า ซื่อสัตย์มั่นคง จำนงเจรจา หาโทษโทสา ไม่มีแก่ตน ใจดั่งดวงแก้ว ประเสริฐเลิศแล้ว ส่องโลกโลกา กุศลผลบุญ ทำไว้นานา เราท่านเกิดมา ไม่เป็นแก่นสาร ใจถือขันตี เมตตาปราณี ฝูงสัตว์ทั้งหลาย เหนี่ยวเอามรรคผล ให้ถึงพระนิพพาน แม้นสิ้นอาสัญ ย่อมพ้นอบาย เราจะขอกล่าว ถึงเรื่องต่ำลงไป
๑๒. ยะกะนัง คือตับ รองรับหัวใจ เป็นพวงแขวนห้อย ย้อยอยู่ข้างใน อย่าได้สงสัย ว่าจะคงทน
๑๓. กิโลมะกัง คือพังผืด หุ้มเนื้อเป็นพืด มองดูแล้วน่าขัน
๑๔. ปิหะกัง คือไต มีอยู่ข้างใน ร่างกายของตน
๑๕. ปัปผาสังคือปอด คิดดูให้ตลอด มันไม่เป็นผล ล้วนเป็นเครื่อง เน่าเปล่าทั่วกายตน มันไม่เป็นผล เหลือล้นโสมม
๑๖. อันตัง คือไส้ใหญ่ ดุจดังถุงไซร์ ขดไว้ให้กลม สามสิบสองขด ดุจดังหวายขม อย่าได้นิยม เครื่องเน่าภายใน
๑๗. อันตะคุณัง คือไส้น้อย ดุจดังสายสร้อย ร้อยพันเข้าไว้ เมื่อกลืนอาหาร เปรี้ยวหวานเข้าไป อยู่ในลำไส้ น่าเกลียดนักหนา
๑๘. อุทะริยัง คืออาหารใหม่ กัดกินเข้าไป ทุกสิ่งนานา อุตส่าห์ กล้ำกลืน แล้วรากออกมา เร่งคิดอนิจจา ทั่วทั้งกายี
๑๙. กะรีสัง คืออาหารเก่า เครื่องสูญสิ้นเปล่า เปื่อยเน่าหมองศรี เป็นมูลขุ่นข้น ทุกคนย่อมมี อยู่ในกายี เครื่องเหม็นภายใน
๒๐. ปิตตัง คือน้ำดี เขียวคลำดำหมี ดุจดังถ่านไฟ ครั้นสิ้นดับจาก พลัดพรากสูญไป เร่งคิดให้ได้ ถึงพระอนิจจา
๒๑. เสมหัง คือเสลด เครื่องน่าสังเวช เสลดนานา ใกล้ม้วยมรณา กลัดกลุ้มหัวใจ
๒๒. ปุปโป คือหนอง เน่าเปื่อยพุพอง เป็นหนองภายใน ไม่ถึงครึ่งวัน สาบสูญบรรลัย เร่งคิดให้ได้ ถึงหลักอนิจจา
๒๓. โลหิตัง คือเลือด ไหลมาไม่เหือด เลือดทั่วทั้งกาย ยี่สิบทะนาน ซาบซ่านทั้งกายา พระท่านพรรณนา ว่าเลือดในตน
๒๔. เสโท คือเหงื่อ ไหลมาซาบเนื้อ ทั่วทุกเส้นขน ไหลมาเมื่อร้อน บ่ห่อนทานทน หลบหลีกบ่พ้น ทั่วทั้งชายหญิง
๒๕. เมโท คือมันข้น แล่นอยู่ในตน แห่งคนทั้งหลาย
๒๖. อัสสุ คือน้ำตา ไหลมามิวาย เมื่อใกล้จะตาย พลัดพรากจากกัน
๒๗. วะสา คือมันเหลว ไหลมารวดเร็ว มีมากเหลือใจ
๒๘. เขโฬ คือน้ำลาย ไหลซาบซ่านไป ทั่วทั้งไรฟัน
๒๙. สิงฆานิกา คือน้ำมูก จำไว้ให้ถูก น้ำมูกอนันต์ ยืดยาดเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนมหันต์ ไหลออกมาทุกวัน โสโครกเต็มที
๓๐. ละสิกา คือไขข้อ มีตามที่ต่อ ทุกทั่วอินทรีย์ หล่อเลี้ยงภายใน ร่างกายของเรานี้ สำหรับกายี เยียดยัดดัดกาย
๓๑. มุตตัง คือน้ำมูตร เมือใดพิสูจน์ น้ำมูตรในกาย น้ำเค็มน้ำขื่น เหม็นหื่นเหลือใจ เต็มแล้วจึงไข ทุกเมื่อเชื่อวัน
๓๒. มัตถะเก คือหู สิ่งไม่น่าดู เหมือนหูกระทะ
มัตถะลุงคัง คือตา ต้องม้วยมรณาอนิจจาดุจกัน
คัณฐี คือน้ำมันสมอง อยู่ในกะโหลก ศีรษะชะโงก เนื่องสูงกายา เมื่อเป็นไข้หวัด ปวดแสบเหน็บขัด คัดทั่วนาสา
อาการ ๓๒ เนืองนองกันมา ล้วนแต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั่วทุกตัวคน อวิชชา คือตัวโง่เขลา ให้เบาปัญญา พาไม่เห็นผล ปกปิดจิตปุถุชน ทั้งหญิงและชาย ผู้คิดไม่ได้ ย่อมตายเปล่าเอยฯ
………………………………………………………
นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆHọc tiếng trung tại đây